ธุรกิจสปาในทุกวันนี้เป็นที่กล่าวถึง เนื่องจากปัญหาความเครียดและเศรษฐกิจได้รุมเร้าภาวะทางร่างกายและอารมณ์ จนทำให้ทุกคนสรรหาวิธีการมาบำรุงและบำบัดตนเองให้ได้ความสุขกายสบายใจจนกลายเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงมีผู้ที่มีความคิดริเริ่ม อยากเข้ามาดำเนินธุรกิจกันอย่างคึกคัก เช่น ในบริษัทที่ปรึกษาต่าง ๆ ได้มีการติดต่อและสอบถามถึงแนวทางธุรกิจอย่างมากมายกว่าที่ผ่านมา คำถามที่มักจะได้ยินก็คือ ใช้เงินทุนเท่าไร คืนทุนเมื่อไร ซึ่งที่ปรึกษาก็มักจะถามกลับไปว่าเพราะเหตุใดจึงสนใจธุรกิจนี้ท่านก็มักจะตอบว่าเพราะ ชอบความสวยความงาม บ้างก็ตอบว่า ชอบเรื่องนวด ๆ มันสบายผ่อนคลายดี บางท่านก็ตอบว่าคิดว่ามันกำไรดีเพราะไม่มีสินค้าคงคลังเนื่องจากเป็นธุรกิจบริการเป็นต้น
จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองที่ดำเนินธุรกิจนี้มาประมาณสิบห้าปี ได้พอสรุปว่าธุรกิจสปาเป็นงานที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์หลากหลายรวมกันผู้ประกอบการควรจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมหลายประการ ถ้าขาดข้องใดข้อหนึ่งไปก็ควรจะศึกษาเพิ่มเติมหรือหาหุ้นส่วนที่มีข้อดีมาเสริม เพราะเป็นงานที่ต้องเผชิญกับอารมณ์ของผู้คนทั้งลูกค้าและบุคลากรโดยถ้าคำนึงถึงเรื่องหลักการที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องเงินลงทุนเพราะบางบริษัทมีแต่เงินทุนแต่ขาดคุณสมบัติของผู้ประกอบการธุรกิจสปาจึงปิดกิจการไปก็มี
โดยคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่วิเคราะห์ได้เป็นหลักการคือ มีใจรักด้านบริการ ผู้ประกอบการควรมีความเป็นกันเองและมีใจบริการเป็นพื้นฐาน มีอัธยาศัยที่ดีเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าหรือผู้มาเยือนกลับมาใช้บริการอีก หลักการนี้ดูจะปฏิบัติง่ายแต่ที่จริงแล้วกระทำยากโดยส่วนใหญ่ทุกท่านมักจะตอบว่าที่จะทำธุรกิจสปานั้นเพราะชอบเรื่องความสวยงามและความผ่อนคลาย แต่ลองนึกดูว่าที่จริงท่านชอบทำให้ผู้อื่นผ่อนคลายและดูดีขึ้นหรือไม่ เช่น ถ้ามีบุคคลสามคนคือ ญาติผู้ใหญ่ ลูกค้า เพื่อน มาขอร้องให้ท่านบริการเรื่องหนึ่งเรื่องใดแล้วท่านจะบริการผู้ใดก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าท่านตอบว่าเพื่อนผู้เขียนให้คะแนนว่าท่านมีใจรักการบริการโดยไม่มีเงื่อนไขจริง ถ้าท่านตอบว่าเป็นลูกค้าแสดงว่าท่านคำนึงถึงเรื่องกำไรเป็นหลัก ส่วนท่านที่ตอบว่าญาติผู้ใหญ่ท่านเป็นผู้ที่มีใจรักในหน้าที่นั่นเอง ถ้าท่านที่มีใจรักการบริการผู้อื่นเป็นพื้นฐาน ท่านจะมีความสุขกับการดำเนินงานสปา แล้วจะมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

1.มีความสนใจในเรื่องสุขภาพและความงาม สนใจใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมีความชอบที่จะใช้บริการตามสปาหลายๆ แห่งเพื่อจะได้นำประสบการณ์มาประยุกต์กับธุรกิจของเราได้ ลองวิเคราะห์ตนเองว่าเวลาท่านอ่านนิตยสารหรือสิ่งพิมพ์ใด ๆคอลัมภ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามเป็นอันดับแรกที่ท่านสนใจหรือไม่ หรือว่าแผนกใดในห้างสรรพสินค้าที่ท่านตรงเข้าไปเยี่ยมชมอุดหนุนเป็นที่แรกเพราะมีหลายท่านที่ก่อนจะเริ่มเปิดกิจการสปามักจะไปทดลองใช้บริการและศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับสปาแต่พอเริ่มดำเนินธุรกิจแล้วแทบจะไม่ดูแลภาพลักษณ์และสุขภาพของตนเองหรือไปทดลองใช้บริการสถานบริการสปาที่อื่นเลย ผู้เขียนเองเวลาไปท่องเที่ยวหรือวันหยุดพักผ่อนส่วนตัวมักจะไปใช้บริการสปาต่าง ๆเป็นอันดับแรกรวมทั้งสนใจอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการด้านสุขภาพและความงามเป็นสิ่งที่ชอบเป็นการส่วนตัว เรียกว่าเป็นปัจจัยที่ห้าของชีวิตทีเดียว

2. มีจิตวิทยาที่ดี ธุรกิจสปาเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้คนหลากหลายอารมณ์ การเข้าใจในจิตใจและสุขภาพจิตของผู้อื่นมีส่วนสำคัญเป็นหลัก จะต้องมีจิตวิทยาในการฟังและการพูดเป็นอย่างมากรวมทั้งตัวเจ้าของธุรกิจจะต้องเป็นผู้มีสมาธิและมีสติในการจะกลั่นกรองคำพูดหรือการรับฟังอย่าเหตุผล เพื่อที่จะสื่อสารกับลูกค้าและเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรวมทั้งการประสานสัมพันธภาพในองค์กร

3. มีวิสัยทัศน์ กว้างไกลยอมรับแนวทางการบริการและเรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องราวใหม่ ๆ อาทิเช่น การศึกษาเพิ่มเติมศาสตร์ใหม่เกี่ยวกับการให้บริการบางท่านเมื่อเริ่มดำเนินธุรกิจแล้วมักจะสงวนท่าทีที่จะไปศึกษาเพิ่มเติมจากสถาบันอื่น หรือไม่ไปเป็นสมาชิกสถานบริการสปาแห่งอื่นเลย ทำให้แนวทางการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการไม่ทันสมัยเรื่องวิสัยทัศน์นี้สำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการขยายสาขาธุรกิจ เนื่องจากรสนิยมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย อาทิเช่น รูปแบบสปาเมนู การตกแต่งพื้นที่ให้บริการ การเพิ่มเติมอุปกรณ์ เป็นต้นรวมทั้งการหาแนวร่วมทางธุรกิจก็สำคัญจึงไม่ควรปิดกั้นตนเอง ควรจะทำความรู้จักกับผู้ร่วมแนวทางธุรกิจเดียวกันเพราะในยุคสมัยนี้การมีสมาคมและการร่วมสังคมจะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นที่ดีอย่างยิ่ง

4. มีทัศนคติที่ดี ต่อธุรกิจและคิดในแง่ดีต่อพนักงาน รวมทั้งเป็นพันธมิตรที่ดีต่อผู้ร่วมธุรกิจทุกฝ่าย ในข้อนี้เริ่มแรกของผู้ที่จะเริ่มมีความคิดทำธุรกิจสปามักจะมีความรู้สึกกับงานสปาที่ดีมากแต่พอเริ่มลงมือทำจะพบปัญหาหลักคือเรื่องของความต่างจิตต่างใจของคน จนเริ่มมองในแง่ลบยิ่งขึ้น จึงควรปรับทัศนคติที่ดี โดยการมองโลกในแง่ดี เช่นปฏิบัติต่อพนักงานเสมือนเป็น “ลูกน้อง” มิใช่ “ลูกจ้าง”พูดคุยรับฟังความคิดเห็นและดูแล “ลูกค้า” เสมือนญาติ รวมทั้งรู้จักให้อภัยเอาใจเขามาใส่ใจเรา การมีกิจกรรมสันทนาการร่วมกันในสปาก็เป็นแนวทางในการปรับทัศนคติที่ดีต่อกันได้อีกวิธีหนึ่ง

5. มีความรู้ ในด้านการตลาด การบริหาร และการเงิน อย่างพอสมควรเพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการจัดการธุรกิจ ในช่วงแรกของการเปิดกิจการการตลาดเป็นหลักสำคัญ ที่จะต้องศึกษาและนำมาปฏิบัติ การฝึกฝนความชำนาญเรื่องการให้บริการ เช่น การนวดแบบต่าง ๆ ควรเรียนรู้หลังจากระบบต่าง ๆ ในองค์กรเข้าที่แล้วเพื่อที่ท่านจะได้คัดสรรบุคลากรที่มีประสิทธิภาพได้ เรื่องการเงินเป็นอันดับต่อไปที่จะต้องนำความรู้มาต่อยอดธุรกิจ หรือที่เรียกการหมุนเวียนเงินอย่างมีประสิทธิภาพ